เจาะ Time Line “น้องไกด์” อมรเทพ เมืองดี แข้งดาวรุ่ง “พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่ เอฟซี

ตั้งวงเล่า วันนี้ อยากจะพาแฟนกีฬามาทำความรู้จัก พ่อค้าแข้งดาวรุ่งรายใหม่ที่ เป็นนักเตะคนแรกที่ไต่มาจาก อคาเดมี่ ของสโมสรฯ  จนก้าวสู่การเป็นนักเตะอาชีพแบบเต็มตัวกับ “พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่ เอฟซี  ด้วยวัยเพียง 18 ปี กว่าๆ ทำสถิติเป็นนักเตะอาชีพที่อายุน้อยที่สุดในทีมถือว่าเป็นผลผลิตที่เจริญงอกงามของ อคาเดมี่ เชียงใหม่ เอฟซี ที่เติบโตตามวัยและเป็นไปตามเป้าหมายของตัว “น้องไกด์” ที่ฝันใฝ่อยากเป็นนักเตะอาชีพให้กับทีมบ้านเกิดอย่าง เชียงใหม่ เอฟซี วันนี้เราจะไปดูกันว่า “ที่มาที่ไป” ของการก้าวมายืนตรงจุดนี้ได้ต้องใช้ระยะเวลา นานเพียงใด และมาถึงเส้นชัยตรงนี้ได้อย่างไร

หนุ่มหน้ามนคนหางดง

“น้องไกด์” อมรเทพ เมืองดี ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2545 เป็นบุตรของคุณพ่อสุวิทย์ คุณแม่สมพร เมืองดี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เรียกว่าเป็นคนเชียงใหม่โดยกำเนิด และถือเป็นเด็กที่มีรูปร่างสูงใหญ่หุ่นนักกีฬา ด้วยความสูง 180 ซ.ม. น้ำหนัก 70 กก. มาตรฐานนายแบบ นักกีฬา ก็ว่าได้

ศิษย์สองสถาบันดังย่านอำเภอเมืองเชียงใหม่ เป้าหมายต่อไป คณะศึกษาศาสตร์ ม.ช.

“น้องไกด์”เริ่มเรียนในระดับอนุบาลถึงประถมศึกษาที่อนุบาลเชียงใหม่ ก่อนจะย้ายมาศึกษาต่อในระดับมัธยมที่โรงเรียนวชิรวิทย์หนึ่งในโรงเรียนลูกหนังชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องด้วยว่า “น้องไกด์” ได้มีโอกาสไปแข่งขันฟุตบอลในงานวิชาการที่โรงเรียนวชิรวิทย์ จนฝีเท้าไปเข้าตาโค้ชของทางสถาบันแห่งนี้จึงถูกทาบทามให้มาศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาที่นี่ ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้ปฏิเสธและอยู่มาจนจะจับมัธยมปลายในอีกไม่ช้านี้ ซึ่ง “น้องไกด์” ก็มีเป้าหมายต่อไปในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาคือ คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกพลศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ยังสำนึกรักบ้านเกิดอยู่ต่อไป โดยยึดถือสโลแกนที่ว่า “เด็กเชียงใหม่ต้องได้เรียน ม.ช.”

อยากเล่นฟุตบอลเพราะได้ไปดูการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ

“น้องไกด์” ได้มีโอกาสติดตามคุณพ่อคุณแม่ไปชมการแข่งขันฟุตบอลสโมสรเชียงใหม่ เอฟซี อยู่บ่อยครั้งจนมีใจรักและชอบในกีฬาฟุตบอล อยากจะเล่นฟุตบอล อยากจะเป็นนักเตะอาชีพ อยากจะเป็นคนที่เล่นอยู่ในสนามให้แฟนบอลได้ดูบ้าง จึงเป็นที่มาที่ไปที่ “น้องไกด์” ต้องการที่จะเข้ารับการฝึกวิชาลูกหนังอย่างจริงจัง

เชียงใหม่ เอฟซี อคาเดมี่แห่งแรกที่สร้างฝัน

ด้วยวัยเพียง 11 ปี ย่าง 12 ปี ย้อนไปเมื่อ 6-7 ปี ที่ผ่านมาโรงเรียนสอนฟุตบอลในจังหวัดเชียงใหม่เริ่มมีการเปิดตัวมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ได้พา “น้องไกด์” มาบ่มเพาะวิชาลูกหนังที่ เชียงใหม่ เอฟซี อคาเดมี่ โดยมี “โค้ชเกรียง” เกรียงไกร เพชรกูล หนึ่งใน สตาฟโค้ชของ “พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่ เอฟซี ในสมัยนั้น เป็นผู้ให้ทั้งศาสตร์และศิลป์ของวิชาลูกหนังแก่ “น้องไกด์”

วชิรวิทย์ สถาบันที่ให้การศึกษาและประสบการณ์

หลังจากชุบตัวอยู่กับอคาเดมี่ของเชียงใหม่ เอฟซี อยู่ได้ระยะหนึ่ง “น้องไกด์” ก็ต้องออกโบยบินสู่โลกกว้างในสมรภูมิลูกหนังที่กว้างไกลขึ้น หลังจากได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนวชิรวิทย์ ก็ทำให้ “น้องไกด์” ได้มีโอกาสลงแข่งขันในรายการต่างๆ มากขึ้น ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี เป็นต้นมาหลายต่อหลายรายการจนสู่ช่วงโตเต็มวัยในระดับมัธยมปลายซึ่งถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อลูกหนัง

3 แชมป์ ในปีเดียวความภูมิใจที่ไม่เคยลืมเลือน กับการได้เล่นอเมเจอร์ลีก T5

ช่วงปลายชีวิตลูกหนังนักเรียน “น้องไกด์” สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและสถาบันการศึกษาด้วยการทำผลงานที่ยอดเยี่ยมด้วยการคว้า 3 แชมป์ ในปีเดียวกันทั้ง แชมป์กีฬานักเรียน แชมป์กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รวมถึงโค้กคัพ เท่านั้นยังไม่พอยังมีโอกาสได้สัมผัสกับบันไดสู่การเล่นฟุตบอลอาชีพด้วยการลงแข่งขันฟุตบอลอเมเจอร์ลีกกับสโมสร เชียงใหม่ดรีม ที่ควบคุมทีมโดยอดีตนักเตะเชียงใหม่อย่าง อนุชา ไชยวงศ์ กฤษณ์ ภิญโญ โดยรวบรวมนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีผสมอดีตนักเตะเก่าๆมากประสบการณ์ ที่ห่างสนามไปนานมารวมตัวกันแต่ก็ยังไปไม่ถึงดวงดาว

เมื่อมีโอกาสก็ต้องคว้าไว้โค้ชพยัคฆ์ล้านนาสนใจให้มาร่วมซ้อมกับทีมก่อนเซ็นสัญญาในครึ่งฤดูกาลหลัง

หลังจาก “น้องไกด์” ได้โชว์ฟอร์มการเล่นอย่างโดดเด่นในช่วงที่เล่นฟุตบอลโค้กคัพ ทำให้โค้ชของทีม เชียงใหม่ เอฟซี ชุดใหญ่ได้มองเห็นถึงความสามารถที่มีอยู่ในตัว “น้องไกด์” จึงได้ชักชวนให้มาร่วมฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกก่อนที่จะทำการตกลงเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ เชียงใหม่ เอฟซี อย่างเต็มตัวในครึ่งฤดูกาลหลังเมื่อไม่นานมานี้ โดย “น้องไกด์” จะสวมเสื้อหมายเลข 88 ลงสนาม ซึ่งตรงนี้ “น้องไกด์” ถือเป็นพระคุณอย่างสูงจากสโมสรเชียงใหม่ เอฟซี ที่ให้โอกาส

ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการหาใช่ใครก็คุณพ่อกับคุณแม่

ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในทุกวันนี้ “น้องไกด์” บอกว่าจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกเสียจากคุณพ่อสุวิทย์ และคุณแม่สมพร เมืองดี บิดามารดาผู้ให้กำเนิด ที่คอยให้การสนับสนุนในทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่าง จนทำให้ “น้องไกด์” มีวันนี้ รวมถึงญาติมิตร ครูบาอาจารย์ และโค้ชทุกคน ที่ให้ความรู้ให้ประสบการณ์ จนทำให้ฝันเป็นจริง

ถือเป็นอีกหนึ่งแข้งดาวรุ่งเมืองเหนือที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่งที่กำลังเดินหน้าทำตามความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ซึ่งแข้งจากอคาเดมี่ของสโมสรฟุตบอลอาชีพที่ก้าวทีละขั้นจนถึงฝั่งฝันในการเป็นนักเตะอาชีพต่อไปอนาคตข้างหน้าคงจะมีโอกาสได้เห็น “น้องไกด์” พาเชียงใหม่ เอฟซี กลับมาเล่นไทยลีก1 อีกครั้งและคงจะมีธงไตรรงค์ติดอกข้างซ้ายเป็นเกียรติประวัติให้ตนเองและครอบครัวสักผืนเช่นเดียวกับนักเตะที่กำเนิดจากอคาเดมี่หลายๆคนอย่าเช่น เอกนิษฐ์ ปัญญาแข้งอคาเดมี่เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ก้าวไปสู่ทีมชุดใหญ่ และ ทีมชาติชุดใหญ่ ตั้งวงเล่าก็หวังว่า  “น้องไกด์” จะเป็นคนต่อไป

Warut