ตั้งวงเล่า … “บังซีม” ชีวิต(นายด่าน) ที่ลิขิต(เอง)ไม่ได้

หากจะพูดถึงตำแหน่งปราการด่านสุดท้ายของแต่ละทีมใน T3 โซนเหนือของเราในฤดูกาลนี้บอกได้ว่ามีอยู่หลายรายที่ทำผลงานได้ดี แบบติดหูติดตาติดตลาด  ด้วยหลายๆปัจจัย  นอกเหนือจากความสามารถของผู้เล่นทั้ง 10 คนในทีมที่ช่วยกันเล่นทำให้ผู้ที่ทำหน้าที่ “ผู้รักษาประตู” ได้ทำงานน้อย เหนื่อยไม่มากแล้ว แต่เมื่อถึงสถานการณ์บีบบังคับที่ต้องแสดงฝีมือ เผชิญหน้ากับกองหน้าฝั่งตรงข้ามที่หมายมั่นจะ “ทำประตู” นายด่านหลายคนก็หน้าที่ของพวกเขาได้ไม่มีผิดพลาด   ชนิดไม่ให้ถูกหยามว่า“เสียประตูนาทีสุดท้ายอายยันลูกบวช”

ตั้งวงเล่า วันนี้เราจะพาท่านไปพบกับเส้นทางชีวิตของนายด่านรูปหล่อร่างใหญ่หนุ่มใต้พลัดถิ่น “ซีม” อนิรุต นัยนา หรือ หลายๆ ท่านเรียกกันว่า “บังซีม” ตามศาสนาที่นายด่านผู้นี้นับถือ หนุ่มน้อยเมืองนครศรีธรรมราชที่ร่วมหัวจมท้ายอยู่กับ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ทีมใน T1 มาเป็นเวลากว่าหลายฤดูกาล จนปีนี้ได้มีโอกาสโบยบินมาซบรัง “หนูนาจอมโหด” วัดโบสถ์ ซิตี้  ชีวิตก็ใช่ว่าจะราบรื่น แต่ก็ไม่ถึงกับเลวร้ายจนไม่สามารถตั้งหลัก เพื่อดำเนินชีวิตบนเส้นทางลูกหนังต่อไปได้  

โดยตลอดระยะเวลาของฤดูกาล 2020 -2021 ของ “บังซีม” หลังออกจากรังค้างคาวมา ก็พบกับปัญหาลงเล่นในลีกให้กับ วัดโบสถ์ ซิตี้ไม่ได้ในครึ่งฤดูกาลแรก พอครึ่งฤดูกาลหลังทุกอย่างดูจะเรียบร้อยพร้อมลงรับใช้ต้นสังกัดได้แต่ก็มาเจอกับคำว่า “ตัดจบ” ชีวิตของ “บังซีม” จากนี้เอาไงดี ตั้งวงเล่า ไปสอบถามมาให้แล้วครับ

ออกรังค้างคาวก้าวสู่รังหนูนา

“ผมอยู่กับทีมสุโขทัย เอฟซี มาก็หลายฤดูกาลในฤดูกาล 2018 – 2019 ก็พอมีโอกาสได้เล่นช่วยทีมในการแข่งขัน T4 ในนามทีม สุโขทัย เอฟซี B แล้วก็ได้เล่นรายการฟุตบอลถ้วยอยู่บ้าง ซึ่งต้องยอมรับว่าช่วงนั้นมีผู้รักษาประตูรุ่นพี่ฝีมือดีหลายคนที่ผมจะต้องแข่งขันเพื่อยึดตำแหน่งมือ1ของทีม แต่เราก็ต้องยอมรับด้วยฝีมือและประสบการณ์เรายังต้องพัฒนา พอมาช่วงต้นฤดูกาล 2020 ในทีมมีประตูรวมผมก็5คน การแข่งขันก็มากขึ้น ช่วงนั้นโควิดระบาดครั้งแรกทางฝ่ายจัดให้พักการแข่งขัน ผมจึงคิดว่าน่าจะเปิดโอกาสให้กับตัวเองในการออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ กับทีมใหม่ๆ จึงได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ในทีมให้ไปร่วมทีมกับ วัดโบสถ์ ซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัวครับ”

เข้ารังหนูนากับปัญหาส่งชื่อไม่ทันครึ่งฤดูกาลแรกแต่ยังได้เล่นบอลถ้วย

“หลังจากที่ทางสุโขทัย เอฟซี ปล่อยผมให้มาเล่นกับ วัดโบสถ์ ซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัวแล้วผมก็ได้มาร่วมซ้อมกับทีมเพื่อรอทำการแข่งขันได้พักใหญ่ทางทีมก็แจ้งมาว่าเกิดความผิดพลาดชื่อของผมและเพื่อนร่วมทีมอีกหลายๆ คนไม่มีชื่อในระบบไม่สามารถลงเล่นลีกได้ ตอนนั้นผมคิดเลยว่าเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรกันขนาดนี้ ผมกำลังจะได้รับโอกาสดีๆ แต่ก็เหมือนทุกอย่างมันพังทลายลง ตรงนี้เราจะไปโทษใครก็ไม่ได้เพราะไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นมา แต่ในความโชคร้ายผมก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ผมยังมีโอกาสช่วยทีมเล่นฟุตบอลถ้วย ซึ่งผมก็คิดว่าตัวผมเองก็ทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง รวมถึงเกมการอุ่นเครื่องก็ได้รับโอกาสอยู่บ่อยครั้งผมพยายามทำผลงานในทุกเกมการแข่งขันที่ผมได้ลงสนามให้ดีที่สุดเพื่อรอโอกาสการได้ลงเล่นในลีกครับ”

สมความตั้งใจได้ลงเล่นแทบทุกนัดในครึ่งฤดูกาลหลังแต่ต้องพังเพราะคำว่า “ตัดจบ”

“พอเข้าสู่ครึ่งฤดูกาลหลังสิ่งที่ผมรอมาตลอดก็ส่งผลผมมีโอกาสได้ลงทำหน้าที่ทุกนัดในครึ่งฤดูกาลหลังยอมรับว่าต้องปรับอะไรอีกมากพอสมควรกว่าจะลงตัวถือเป็นโชคดีของผมที่ผมยังได้มีโอกาสลงสนามซึ่งก็ต้องยอมรับว่าได้อะไรมากพอสมควรจากประสบการณ์ในการออกมาหาความท้าทายครั้งนี้ แต่แล้วพอผ่านไปไม่นานโรคโควิดกลับมาระบาดอีกครั้งทำให้มีการยุติการแข่งขันในระดับ T 3 ทุกภูมิภาคเหลือแต่ทีมที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบแชมเปียนส์ลีก ทำให้ทุกอย่างในฤดูกาลนี้ของผมต้องจบลงก่อนเวลาครับ”

กลับถิ่นค้างคาวไปพัฒนาฝีมือรอสร้างชื่อฤดูกาลต่อไป

“ผมยังถือว่าโชคดีที่ทางต้นสังกัดของผมอย่างสุโขทัย เอฟซี ยังให้ผมได้กลับมาฝึกซ้อมและรับเงินเดือนเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาถึงแม้ว่าในนัดที่เหลือจะไม่มีชื่อผมลงสนาม ผมก็ต้องใช้เวลาในช่วงนี้ฝึกซ้อมกับทีมเพื่อพัฒนาตัวเอง ศึกษาฟอร์มการเล่นของผู้รักษาประตูเพื่อนร่วมทีมเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่ขาดตกบกพร่อง สำหรับเป้าหมายในฤดูกาลหน้าผมยังมีสัญญาอยู่กับทางสุโขทัย เอฟซี ผมก็ขอตั้งหลักที่นี่ไปก่อนแล้วแต่ทางผู้ใหญ่จะพิจารณา ถ้ามีโอกาสและเป็นไปได้ก็อยากจะออกไปหาประสบการณ์เหมือนฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยการไปแบบสัญญายืมตัวเหมือนเดิมครับ แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคตขอให้ผ่านตรงนี้ไปให้ได้ก่อนครับ”

จากเรื่องราว “ลึกๆ แต่ไม่ลับ” ของ “บังซีม” อนิรุต นัยนา ที่ถือว่ามีทั้งความ “โชคดี” ที่ปนอยู่ในความ “โชคร้าย” ด้วยเหตุที่ใครไม่ได้อยากจะให้เกิดขึ้นทั้งเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อทุกๆ คน ทั่วบ้านทั่วเมือง ทั้งความผิดพลาดที่ทำให้เกือบจะไม่ได้ลงสนาม แต่ก็ผ่านมาได้และยังโชคดีที่มีสโมสรต้นสังกัดให้โอกาสและดูแลเป็นอย่างดี ซึ่ง ณ เวลานี้เขายังถือว่า “โชคดี” กว่านักเตะหลายๆ คนที่ต้องพบเจอกับคำว่า “ตัดจบ”

เครดิตภาพ ; https://www.facebook.com/WatbotCityFC

Warut