fbpx

ฮิมต๋ายฮิมยัง : รูดม่านแต่ยังไม่ได้ปิดฉาก

การแข่งขันฟุตบอลลีกของไทย ฤดูกาล 2020-2021 เดินทางมาถึงบทสรุปกันไปเกือบจะทุกลีกแล้ว ไทยลีก 1 อย่างที่ทราบแชมป์มาตั้งแต่เมื่อต้นเดือนก่อน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกของสโมสร ส่วนไทยลีก 2 หนองบัว พิชญ เอฟซี ก็จบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์ หลังที่ได้เลื่อนชั้นไปก่อนหน้านี้แล้ว ถือเป็นแชมป์ลีกในระดับ T2 ครั้งแรกของสโมสรเช่นเดียวกัน ส่วนไทยลีก 3 ลำพูน วอริเออร์ ที่ได้แชมป์ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

สรุปบอลลีกไทยทั้ง 3 ลีกปีนี้ แชมป์ของแต่ละลีก เป็นแชมป์ครั้งแรกกันทั้ง 3 ลีก ซึ่งบังเอิญเสียเหลือเกิน ก็ถือว่าเป็นปีทองของพวกเขาที่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ

ถือเป็นรางวัลแห่งความทุ่มเทมาตลอดฤดูกาลที่มีอุปสรรคมากมายเพราะ “โควิด” ที่เปลี่ยนแปลงวิถีของวงการฟุตบอลไทยไป จากเดิมที่เราเตะกันในรอบปี พ.ศ.เดียว แต่นับจากฤดูกาลนี้ ทีท่าว่าจะเตะกันข้าม พ.ศ. คงไม่ผิดไปจากนี้แน่

เมื่อมีทีมที่ดีใจ ในระบบบอลลีก ก็ย่อมมีทีมที่เสียใจ เพราะปีหน้าพวกเขาต้องลงไปเล่นในลีกที่ต่ำกว่า อย่างน้อย 1 ฤดูกาล ไทยลีก 1 ทีมที่ต้องตกชั้นได้แก่ ระยอง เอฟซี อันดับ สุดท้าย ตราด เอฟซี รองสุดท้าย และสุโขทัย เอฟซี ที่พวกเขาไม่อาจฝืนชะตาต่อการตกชั้น ที่พวกเขา “ฮิมต๋าย ฮิมยัง” มาหลายฤดูกาล จนแล้วจนรอด พวกเขาก็ต้อง “ฮิมยัง” ในฤดูกาลนี้

การพ่ายแพ้ในนัดสุดท้ายต่อ สุพรรณบุรี เอฟซี เพื่อร่วมชะตากรรมที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเก็บ 3 แต้มเท่านั้น เพราะคู่ต่อสู้ของพวกเขาต้องการแค่เพียงไม่แพ้ ก็จะอยู่รอดต่อไป และพวกเขาก็ทำได้พร้อมกับเขี่ย สุโขทัย เอฟซี ให้ลงไปเล่นลีกพระรองในฤดูกาลหน้า

ประตูโทนลูกเดียวในเกมสุดแสนดราม่าวันนั้นมาจากชายที่มีชื่อว่า เลอันโดร อัสซัมเซา การออกมาเล่นในครึ่งหลังที่คล้ายกับพอใจ 1 คะแนนเพื่อการอยู่รอด ทำให้เมื่อเพลี่ยงพล้ำเจ้าบ้านไปแล้ว สถานการณ์ของ สุโขทัย เอฟซี ยากที่จะกู้กลับมาได้ จนสุดท้ายพวกเขาก็ต้องกลับไปไล่ล่าสิทธิ์ที่จะกลับมาเล่นบนลีกสูงสุดในปีหน้า

ฟาก ระยอง เอฟซี และ ตราด เอฟซี ทีมร่วมชายฝั่งตะวันออกที่พวกเขามีชื่อเป็นน้องใหม่ลีกพระรองไปแล้วก่อนหน้านี้ สำหรับพวกเขาช่างเป็นปีที่โหดร้าย ระยอง เอฟซี โลดแล่นอยู่ในลีกสูงสุดแค่เพียง 1 ปี 30 นัดที่พวกเขาลงเล่นทำประตูคู่แข่งไปได้แค่ 24 ลูก น้อยสุดในลีก และเสียไปถึง 69 ลูก มากที่สุดในลีก กับใบเหลืองอีกถึง 86 ใบ ไม่บอกก็พอรู้ว่ามากสุดในลีกเช่นกัน สถิตินี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยปลื้มใจนัก แต่นี่คือลีกสูงสุดของประเทศ

ตราด เอฟซี 30 นัดที่พวกเขาลงเล่น ยิงไป 31 ประตู อันดับที่ 3 จากท้ายที่ทำประตูได้ในลีก มากกว่า ชลบุรี เอฟซี 1 ลูก แต่พวกเขาเสียใบแดงมากที่สุดในลีก 8 ใบด้วยกัน สถานการณ์เช่นนี้จึงทำให้พวกเขาต้องกลับลงมาพิสูจ์ตัวเองว่า พวกเขายังดีพอที่จะกลับไปเล่นลีกสูงสุดหรือไม่

ส่วนในลีกพระรอง 2 ทีมที่ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปก่อนหน้านี้แล้ว หนองบัว พิชญ เอฟซี แชมป์ที่เกือบจะไร้พ่าย แต่ต้องมาเสียสถิติในนัดรองสุดท้าย แต่ก็ยังเป็นทีมที่เสียประตูน้อยสุดที่ 16 ลูก และเก็บแต้มนอกบ้านได้มากที่สุดของลีกที่ 37 แต้ม และรองแชมป์ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ทีมที่เสียประตูในบ้านยากมาก ทั้งฤดูกาลพวกเขาเสียประตูในบ้านให้คู่แข่งแค่เพียง 5 ลูก แต่กลับยิงประตูนอกบ้านได้มากที่สุดของลีกที่ 29 ลูก ยังเหลือโควตาอีก 1 ที่สำหรับแชมป์ในรอบเพลย์ออฟ

ส่วนทีมที่ตกชั้นมาเล่นไทยลีก 3 ได้แก่ ไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร เอฟซี อุทัยธานี เอฟซี และ ศรีสะเกษ เอฟซี สองทีมแรกนั้นมีชื่อถูกลดชั้นมานานพอสมควรแล้ว ส่วนทีมที่ต้องตกชั้นทีมสุดท้ายต้องมาดูกันที่จบนัดสุดท้ายของฤดูกาล

และก็เป็น อุดรธานี เอฟซี ที่พลิกชะตาคว้า 3 แต้มในนัดสุดท้าย ในขณะที่ ศรีสะเกษ เอฟซี กลับพลาดท่าปราชัยต่อ แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ทำให้พวกเขาต้องตกชั้นแทน หลังจากหล่นมาร่วมไทยลีก 2 มาตั้งแต่ฤดูกาล 2018

เรื่องราวที่น่าสนใจของทีมในไทยลีก 2 คงต้องยกให้ ไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร เอฟซี ทีมที่ถูกผลกระทบจากโควิดหนักที่สุดในบรรดาทีมในฟุตบอลไทย การเป็นคลัสเตอร์ที่มีการระบาดรอบใหม่ที่ส่งผลกระเทือนไปถึงการจัดการแข่งขันทั้งระบบ การที่เตะในบ้านตัวเองไม่ได้ ปัญหาเรื่องการเงินจากการถอนตัวของผู้สนับสนุน นักเตะได้รับเงินเดือนล่าช้า ปัญหาอื่น ๆ ที่รุมเร้า แต่พวกเขาก็ยังกัดฟันลงทำการแข่งขันจนจบฤดูกาล

บางนัดต้องเดินทางไปกันเอง รถส่วนตัว รถโดยสาร สารพัดวิธี นัดสุดท้ายในการเยือน เชียงใหม่ เอฟซี พวกเขามีรายชื่อผู้เล่นรวมตัวสำรองแค่ 15 รายชื่อเท่านั้น แม้การเสียประตูรวมถึง 119 ประตู มากกว่าที่ทีมอันดับ 1 – 4 เสียประตูรวมกัน และยิงคู่แข่งได้แค่ 25 ประตูแต่นั่นคือสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุด ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากจริง ๆ

ส่วนข้อมูลที่น่าสนใจอื่น ๆ ก็คงจะเป็นผลงานของรุกกี้ปีแรกที่มาจากไทยลีก 3 ฤดูกาลที่แล้ว นครปฐม ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ทำอันดับได้ดีที่สุด พวกเขาจบอันดับที่ 3 ตามมาด้วย ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในอันดับที่ 4 แพร่ ยูไนเต็ด จบอันดับที่ 5 ทั้ง 3 ทีมยังมีงานที่จะแย่งสิทธิ์สุดท้ายเพื่อเลื่อนชั้นในรอบเพลย์ออฟ ส่วน แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ก็ทำผลงานได้ดีด้วยการจบที่อันดับ 8

ในรอบเพลย์ออฟจะเตะกันแบบ เหย้า-เยือน จากการประกบคู่ อันดับ 3 นครปฐม ยูไนเต็ด จะเตะกับ ชัยนาท ฮอร์นบิล ทีมอันดับที่ 6 โดยในเกมแรกจะเป็นฝั่ง ชัยนาท ฮอร์นบิล จะได้เป็นเจ้าบ้านก่อน คู่นี้จะเตะกันที่เขาพลอง สเตเดียม อีกคู่ ขอนแก่น เอฟซี ทีมอันดับ 4 จะพบกับ แพร่ ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 5 โดยเกมแรกจะเตะกันที่ห้วยม้า สเตเดียม บ้านของ แพร่ ยูไนเต็ด ทั้ง 2 คู่จะเตะกันในวันที่ 4 เมษายนนี้ 19.00 น.
หลังจากนั้นจะสลับไปเตะในบ้านของ นครปฐม ยูไนเต็ด และ ขอนแก่น เอฟซี ในวันที่ 10 เมษายน และผู้ชนะของทั้ง 2 คู่ก็จะมาเตะเพื่อหาแชมป์เพลย์ออฟ ตาม หนองบัว พิชญ เอฟซี และ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ไปเป็นน้องใหม่ไทยลีกฤดูกาลหน้าต่อไป

ฮิมต๋ายฮิมยัง by TTDad

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า