ฮิมต๋ายฮิมยัง : ลีกพระรองกับ“บิ๊กดีล”ที่ต้องร้อง“ว๊าว”

สัปดาห์ที่แล้ว เราได้เห็นการเสริมทีมของพี่ ๆ ไทยลีกกันไปแล้ว แต่ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงกันอยู่บ้าง โดยเฉพาะ การท่าเรือ เอฟซี ที่ก่อนหน้านี้ตกลงปลงใจขอยืม บาร์รอส ทาร์เดลลี่ กองหน้าชาวบราซิล จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แต่ก็เกิดปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้ดีลนี้ สุดท้ายก็ไม่เกิดขึ้น เลยต้องเบนเข็มไปหา จอห์น บาจโจ้ จาก สุโขทัย เอฟซี มาแทน

ส่วน บาร์รอส ทาร์เดลลี่ กลับมีความเชื่อมโยงไปยังถิ่น “ปราสาทสายฟ้า” แบบที่ไม่มีเค้าแต่อย่างใด ถ้าดีลนี้สุดท้ายจบลงที่การชูเสื้อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขาจะเป็นนักเตะต่างชาติรายแรกที่ถูกดึงมาจากทีมในไทยลีกด้วยกัน ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้น เพราะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มักจะดึงแข้งต่างชาติมาจากนอกประเทศในทุก ๆ ฤดูกาล

ส่วนไทยลีก 2 ปีนี้ยังคงกระแสข่าวการเสริมทีมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทีมน้องใหม่ 3 ทีมที่ต้องเสริมตัวผู้เล่นเพื่อเอาไว้ต่อกรกับศิษย์พี่ในระดับไทยลีก 2

มากันที่ทีมอันดับที่ 3 “ราชประชา” ก็ยังคงอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ในฐานะเป็นทีมน้องกับแชมป์ไทยลีกทีมล่าสุด บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประเดิมด้วยการส่งโค้ชฝีมือดี ดุสิต เฉลิมแสน ผู้ที่ทำให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นแชมป์ไทยลีกครั้งแรกของสโมสร มาทำหน้าที่กุมบังเหียน “ทีมตราชฎา” ในฤดูกาลนี้

ถ้าพูดถึงดีกรีโค้ชแล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธฝีมือ “โค้ชโอ่ง” ในเวทีฟุตบอลไทยอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่แค่โค้ชเท่านั้น พี่ใหญ่ยังส่งนักเตะมาให้ใช้งานอีกด้วย เริ่มจาก พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ศราวิน แสงรา และ ศุภสัณห์ อาจรอด แถมยังมีนักเตะจาก อุดร ยูไนเต็ด จาร์เดล คาปิสทราโน่ ที่เซ็นไว้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แต่ปล่อยให้มาเล่นกับทีมน้อง

นอกจากนักเตะที่มาจากทีมพี่แล้ว ยังดึง วรรณพล ปุษปาคม มาจาก โปลิศ เทโร อีกด้วย ยังไม่นับนักเตะที่มาจากขอนแก่น เอฟซี อีก 3 ราย เรียกได้ว่าการเสริมทีมในรอบนี้น่ากลัวอยู่ไม่ใช่น้อย บวกกับขุมกำลังเดิมที่มีอยู่ พวกเขาน่าจะสู้กับเพื่อนร่วมลีกได้อย่างสนุก บวกกับกึ๋นของ “โค้ชโอ่ง” ด้วยแล้ว “ตราชฎา” อาจมีสิทธิ์กลับมาทวงความยิ่งใหญ่เหมือนในอดีตได้

มาต่อกันที่ทีมที่ชิงพื้นที่สื่อกีฬาได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ฟุตบอลไทยลีก 3 จบลง รองแชมป์ปีล่าสุด “เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด” ทีมที่มีหัวหน้าโค้ชระดับ โปรไลเซ่นส์ “เซอร์เด็จ” เจด็จ มีลาภ ได้รับความไว้วางใจจากทีมผู้บริหารให้ทำหน้าที่คุมทีมลงสู้ศึกไทยลีก 2 โดยเป้าหมายคือการเลื่อนชั้นให้ได้ภายในฤดูกาลเดียว

การเสริมทีมที่แต่ละรายที่ได้ลายเซ็นมา ล้วนแล้วแต่เรียกเสียงฮือฮาให้กับแฟนบอลชาวไทย ไล่เรียงมาตั้งแต่ เลอันโดร อัสซัมเซา กับ แฮร์ลิสัน ไคออน จาก สุพรรณบุรี เอฟซี โจนาธาน เฮส จาก ตราด อาทยอม ฟิลิโปสยาน และ ภูริทัต จาริกานนท์ จาก พีที ประจวบ เอฟซี จิตปัญญา ทิสุด จาก ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ปิดท้ายที่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล จาก ชลบุรี เอฟซี

จะไม่ฮือฮาได้อย่างไร เมื่อรายชื่อที่ไล่เรียงมานั้น ล้วนแล้วแต่มาจากไทยลีก 1 ทั้งนั้น แถมแต่ละคนยังดีกรีไม่ธรรมดา เมื่อมาผนึกกำลังกับนักเตะในระดับไทยลีกที่ยังอยู่ในแผนการทำทีมของ เซอร์เด็จ แล้ว บอกได้คำเดียวว่า “สุด” สุดจริง ๆ ฟอร์มทีมเพื่อการเลื่อนชั้นโดยแท้

ไล่เรียงมาถึงทีมแชมป์ ไทยลีก 3 “ลำพูน วอริเออร์” ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกันคือการเป็น 1 ใน 3 ทีมที่จะเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 1 ในฤดูกาลหน้า เป็นอีกทีมที่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถช่วงชิงพื้นที่ข่าวกีฬากลับมาจาก เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ได้

การเสริมตัวผู้เล่นในระดับไทยลีก เริ่มจาก ควอน แต ฮี และ ติอาโก้ ชูลาปา จาก โปลิศ เทโร แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม ผู้รักษาประตู จาก นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี นอกจากนั้นยังดึง อาทิตย์ สุนทรพิธ มาจาก ขอนแก่น ยูไนเต็ด รณชัย รังสิโย จาก ราชประชา นภัทร ดีประเสริฐ  และ อัครินทร์ ปิตตาโส จาก ระนอง ยูไนเต็ด จีราชัย ละดาดก และ วิสิทธิ์ ดอนอาจ จาก ลำปาง เอฟซี ชลวิทย์ คนึงคิด แพร่ ยูไนเต็ด

แต่ที่ฮือฮามากที่สุดคงเป็น “บิ๊กดีล” ที่ดึงอดีตนักเตะหงส์แดง ลิเวอร์พูล อาลี ซิสโซโก้ มาจาก AFC Blois ทีมในลีกระดับ 4 ของฝรั่งเศส เป็นดีลที่สะเทือนเลื่อนลั่นสำหรับไทยลีก 2 ฤดูกาลนี้เลยทีเดียว นี่ยังไม่รวมความพยายามที่จะดึงนักเตะที่มีชื่อเสียงอย่าง ซาโลมอง กาลู อดีตแนวรุกที่เคยประสบความสำเร็จมากมายกับ เชลซี อีกหนึ่งยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาร่วมทีม แม้ถึงเวลานี้ดีลนี้จะล่มไป แต่แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะคว้านักเตะ บิ๊กเนม ที่เคยมีชื่อเสียง ที่เคยลงเล่นในลีกระดับโลก มาเล่นในเวทีไทยลีก 2

เมื่อมารวมกับขุมกำลังเดิมที่นำทีมโดย บังดุล อดุล หละโสะ น่าจะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น ในทุกตำแหน่ง ก้ขึ้นอยู่กับทีมงานผู้ฝึกสอนแล้วว่า จิ๊กซอเมื่อมากองรวมกันแล้ว จะต่อให้สมบูรณ์แบบได้เร็วแค่ไหน

แน่นอนว่าปรัชญาการหานักเตะส่วนนึงก็ต้องมาจากแผนการเล่น แผนการทำทีมของโค้ช แต่อีกส่วนนึงก็มาจากแรงบันดาลใจ หรือผลตอบแทนทางธุรกิจของเจ้าของทีมด้วย จริงอยู่ที่การเสริมทีมด้วยจ่ายเงินค่าจ้างสูง ๆ ให้กับนักเตะที่เคยโด่งดัง ในเวลาบั้นปลายอาชีพค้าแข้งหลายคนอาจมองว่า “สิ้นเปลือง” โดยใช่เหตุ แต่การทำลักษณะอย่างนี้ เรามีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วจากทีมหัวแถวของเอเชีย อย่างญี่ปุ่น หรือแม้แต่จีนเป็นต้น

เมื่อมันเป็นวิสัยทัศน์ที่อยากเห็นการยกระดับฟุตบอลไทย ที่ไม่ได้สงวนไว้เฉพาะทีมในลีกสูงสุด ทุกวันนี้บอลลีกญี่ปุ่น ถือเป็นลีกที่แข็งแกร่งอันดับต้น ๆ ของเอเชีย เม็ดเงินที่จีนก็เริ่มส่งผลให้เห็นในเวทีระดับเอเชียแล้ว จึงไม่ผิดนักหากจะวาดฝันว่า บอลไทยเองจะแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่ลีกพระรอง

มาต่อกันที่ทีมที่เพิ่งอกหักจากการคว้าโควต้าขึ้นลีกสูงสุด “เสือป่าราชา” นครปฐม ยูไนเต็ด ได้ เลสเตอร์ บลังโก จาก แพร่ ยูไนเต็ด อามีร์ อาลี เชร์จินี จาก พิษณุโลก เอฟซี  ศรัณยู บัวเนียม จาก ศุลกากร ยูไนเต็ด ก้องนธีชัย บุญมา จาก เชียงใหม่ เอฟซี อภิรัตน์ หีมขาว จาก เกษตรศาสตร์ เอฟซี อดิศร แดงเรือง จาก หนองบัว พิชญ เอฟซี อัฏฐพล ชมมาลีธนาวัฒน์ จาก บางกอก เอฟซี ถือว่าเป็นการเสริมเพื่อรักษาพื้นที่ในการเลื่อนชั้น เพราะนักเตะเก่าที่มี “โค้ชธง” น่าจะมั่นใจในระดับนึงว่าจะสามารถต่อกรกับเพื่อนร่วมลีกได้อย่างแน่นอน แถมยังมีประสบการณ์ด้วยการอยู่ในโควต้าเพลย์ออฟฤดูกาลล่าสุดอีกด้วย

มากันที่ “เชียงใหม่ เอฟซี” ดึง 4 นักเตะมาจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประกอบไปด้วย พงศ์รวิช จันทวงษ์  ตะวัน โคตรสุโพธิ์ ศุภโชค กูหมาด และ ศุภศักดิ์ สารภี 3 ผู้เล่นจาก ขอนแก่น เอฟซี ไชยพฤกษ์ จิราจินต์ พรหมมินทร์ แก้วสง่า และ มุสตากีม ยูโซ๊ะ สุดท้าย เวลจ์โก ฟิลิโปวิช จาก อยุธยา ยูไนเต็ด

ส่วนทีมอื่น ๆ ยังคงเสริมผู้เล่นกันไม่มากนัก แต่อีกหลายทีมทั้ง ชัยนาท ฮอร์นบิล แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด อยุธยา ยูไนเต็ด เกษตรศาสตร์ เอฟซี อุดรธานี เอฟซี สุโขทัย เอฟซี ตราด เอฟซี รวมถึง ลำปาง เอฟซี จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีข่าวการเสริมตัวผู้เล่นแต่อย่างใด ท่ามกลางข่าวลือมากมายทั้งการยุบทีม การถูกเทคโอเวอร์ และอีกหลายกระแสข่าว อ้อเกือบลืม ทีมในภาคเหนือของเราอีกทีม “ม้าคะนองศึก” แพร่ ยูไนเต็ด ที่ฤดูกาลที่ผ่านมา จบด้วยอันดับ 5 แม้ว่าจะเสริมมาแล้วสอง คือ จอ โค โคตัวรุก สัญชาติ เมียนมาร์ เเละ ซากี้ ซากีรีน ตีกาสม หลังตัวเก๋า จากเเม่โจ้ ยูไนเต็ดพร้อมทะยอยต่อสัญญานักเตะเก่า แต่เชื่อว่า คงต้องมีบิ๊กดิล แน่นอน

ก็คงต้องมาตามกันต่อว่า ถึงโค้งสุดท้ายของการเสริมตัวผู้เล่น ทีมไหนจะมี บิ๊กดีล เสริมเด็ด เสริมโหด กันอีกบ้าง

รับรองว่าไทยลีก 2 ปีนี้ดีกรีความมัน น่าจะทวีคูณมากกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ยังไงก็อย่าลืมปัจจัยของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ได้เปลี่ยนวิถีของบอลไทยไปแล้ว หากมันไม่แผลงฤทธิ์อะไรมากมาย บอลไทยปีนี้จะดูกันสนุก โดยเฉพาะไทยลีก 2 ที่มีดาวดังจากไทยลีก 1 ลงมาวาดลวดลายกันหลายคน ทีมที่เสริมไปแล้วแบบ “ว๊าว” ผลงานจะดีแค่ไหน เป้าหมายที่วางไว้ทีมไหนจะสมหวัง เมื่อนกหวีดเริ่มเกมนัดแรกดังขึ้น พวกเขามีเวลาจนถึงสิ้นสุดฤดูกาล เพื่อมาสรุปผลว่า “ตามเป้า” กันไหม

เครดิตภาพ : FB Rajpracha / FB Lamphun warriors  / FB MuangKan United / FB NakhonpathomUnited / http://www.cmfctiger.com/

ฮิมต๋ายฮิมยัง by TTDad

#ฮิมสนาม #ฮิมสนามตั้งวงเล่า

#อีซูซุศาลาเชียงใหม่ #ChiangmaiFreshmilk #ดาวเรืองตราบ้าน #ทรายป่าห้า #ไทยลีก #ไทยลีก2

Warut