ฮิมต๋ายฮิมยัง : กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ

สัปดาห์ที่ผ่านมา ความสนใจของแฟนกีฬาชาวไทย คงหนีไม่พ้นมหกรรมกีฬาที่มวลมนุษยชาติให้ความสนใจ โอลิมปิก โตเกียว 2020

เช่นกัน โอลิมปิกหนนี้ก็ถูกเลื่อนออกมาแต่เดิมที่จะต้องมีการแข่งขันตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็ด้วยปัญหาการแพร่ระบาดนั่นแหล่ะครับ

รูปแบบการแข่งขันที่ถูกปรับเปลี่ยน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อ และการรับเชื้อ ในระหว่างการแข่งขัน และที่สำคัญก็คือ แฟนกีฬาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชมการแข่งขันในสนาม

ความคุ้นชินจากการดูถ่ายทอดสดที่คนดูเต็มสนามนั้น หนนี้จะไม่ได้เห็นภาพเช่นนั้น แต่ความเคยชินที่ดูการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดนั้นก็เป็นเช่นเดิม

ในประเทศไทยเอง ผู้รับหน้าเสื่อในการถ่ายทอดสดนั้น แต่ไหนแต่ไรมา โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือ ทรท. จะเป็นแม่ข่ายและจะมีช่อง 3-5-7-9-11 ออกอากาศให้เราดู

แต่ในครั้งนี้การถ่ายทอดสดเองไม่ได้เป็นกิจจะลักษณะเหมือนเช่นที่เป็นมา การถ่ายทอดหลักกลับกลายไปอยู่บนแพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่น ส่วนทางฟรีทีวีนั้นก็มีเฉพาะบางกีฬา และต้องใช้ความพยายามพอสมควรในการเลื่อนช่องบนรีโมทเพื่อหาดูว่า ถ่ายช่องไหน กีฬาอะไร

ยอมรับครับว่าครั้งนี้เป็นการดูการถ่ายทอดโอลิมปิกที่มี “อุปสรรค” อยู่พอสมควร ทีแรกก็นึกเห็นใจแฟนกีฬาที่ไม่มีโอกาสเข้าไปชมกันในสนาม แต่ทางบ้านเองก็ยังไม่ค่อยสะดวกมากนัก เว้นแต่ใครจะลงแอพพลิเคชั่นที่ถ่ายทอดก็สะดวกกันเลยทีเดียว

ผลงานนักกีฬาไทย หลายชนิดกีฬาก็ยังคงรักษามาตรฐานการแข่งขัน ได้อยู่ในแถวหน้าของโลก ส่วนหลายชนิดกีฬาต้องยอมรับว่า เรายังไม่สามารถไปยืนในจุดที่เราจะคว้ารางวัลจากการแข่งขันมาได้

ร่วม 1 สัปดาห์ที่เราเข้าร่วมการแข่งขัน รางวัลที่ได้ของนักกีฬาไทย ยังคงมีอยู่ 1 เหรียญทอง เป็นเหรียญเดียวที่ทัพนักกีฬาไทยได้มา

“น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้กีฬาเทควันโดเป็นเหรียญแรก ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เรียกว่าเป็นการคว้าเหรียญทองมาแบบ “ฮิมต๋ายฮิมยัง” จากการที่มีแต้มตามหลังคู่แข่ง 9 – 10 และเหลือเวลาอีกแค่ 5 วินาที

ก่อนที่เธอจะพลิกสถานการณ์ด้วยการทำแต้มนำ 11 – 10 ก่อนที่จะรักษาความได้เปรียบ จนกระชากเหรียญทองจากคอคู่แข่งกลับมาคล้องคอตัวเอง ให้คนไทยได้ภาคภูมิใจกันทั้งประเทศ

ถ้าใครได้ดูการถ่ายทอดสดก็คงต้องมีโมเมนต์ในการลุ้นจนวินาทีสุดท้าย แต่น่าเสียดายที่สื่อบางรายกลับ “ถอดใจ” ชิงความไวในการเสนอข่าวด้วยการมอบเหรียญเงินให้กับเธอ ทั้งที่เวลาการแข่งขันยังไม่จบ

เกิดคำถามในช่วงเวลานั้นอยู่พอสมควรเลยว่า “จะรีบไปไหน” นี่แหล่ะครับ สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญคือความถูกต้องก่อนความรวดเร็ว

ในโลกปัจจุบัน การสื่อสารทำได้รวดเร็ว เพียงแค่เสี้ยววินาที การกระจายข่าว การส่งต่อ รวมถึงการมองเห็นนั้นรวดเร็วเกินกว่าที่เราเคยจินตนาการ

ย้อนกลับมาที่“น้องเทนนิส” ผลงานการคว้าแชมป์ ได้เหรียญทองกลับบ้าน นำมาซึงสิ่งที่เราคุ้นหูคือ “เงินอัดฉีด” ที่นักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลกลับมาจะได้รับทั้งจากภาครัฐและเอกชน

เบ็ดเสร็จงานนี้ “เงินอัดฉีด” ล่าสุดรวมอยู่ที่ประมาณ 17 ล้านบาท ต้องเขียนคำว่า “ล่าสุด” เอาไว้ก่อน เพราะเชื่อว่า ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะเงินรางวัลที่จะมีผู้ใจดีมอบให้นั้น บางครั้งอาจจะยังรอ “อนุมัติ” อยู่อีกก็เป็นได้

เมื่อพูดถึงการอัดฉีด ไม่เพียงประเทศไทยเท่านั้น แต่หลาย ๆ ประเทศ ก็มีนโยบายมอบเงินรางวัลพิเศษให้นักกีฬาที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศเช่นกัน

ใกล้ ๆ บ้านเรา “ฮิดิลีน ดิอาซ” นักยกน้ำหนักสาวทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกของประเทศ ก็ได้รับ “เงินอัดฉีด” ไปเช่นกัน

มีรายงานว่า เธอจะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากภาครัฐและเอกชนเป็นประมาณ 33 ล้านเปโซ (หรือประมาณ 22 ล้านบาท) ขณะที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่งประกาศมอบคอนโดมิเนียม 1 ห้อง มูลค่า 14 ล้านเปโซ (หรือประมาณ 9.4 ล้านบาท)

มีหลายเสียงที่ตั้งคำถามว่า “เงินอัดฉีด” ในยามนี้ที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเกิดปัญหาการแพร่ระบาด น่าจะเอาเงินจำนวนนี้ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นที่แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคมากกว่า

ก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า “เงิน” ที่อยู่ในการบริหารจัดการในแต่ละปีนั้น ถูกแบ่งสรรปันส่วนไปตามแผนงานที่วางไว้

แน่นอนว่า “เงินอัดฉีด” นั้นก็ถูกวางแผนไว้เป็นประจำอยู่แล้ว และถือเป็นเงินคนละส่วนกันกับงบด้านอื่น รวมถึงนี่เป็นรางวัลตอบแทนความพยายาม ความอดทน ในการเสียสละ ในการฝึกซ้อมของนักกีฬา

หน้าฉากเราเห็นเพียงแค่การแข่งขันไม่กี่นาที หลังฉากคือการแสดงความตั้งใจฟิตซ้อมเพื่อไปทำการแข่งขันตลอดหลายปี

ถ้าเราเห็นโฆษณาในช่วงการถ่ายทอดสด ที่ฉายให้เห็นภาพการฝึกซ้อมของนักกีฬา ก็พอจะทำให้เราเห็นว่า หลังฉากมันยากกว่าหน้าฉากแค่ไหน

ความสำเร็จเกิดจากการฝึกซ้อม และทำซ้ำ ๆ ยาวนานมากพอที่จะทำให้นักกีฬามั่นใจว่า เมื่อถึงตอนแข่งขันจริง พวกเขาจะทำผลงานให้ดีเหมือนที่เคยได้ฝึกซ้อมอย่างหนักมา

แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่จะต้องถูกถ่ายทอดให้เยาวชนของเราได้เห็นว่า การฝึกซ้อม ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ในสิ่งที่เราถนัด ในสิ่งที่เราอยากประสบความสำเร็จ ถ้าหากเราทำมันมากพอ วันนึงเราเองก็จะประสบความสำเร็จอย่างเช่นตัวอย่างที่ได้เห็นกันในวันนี้

ส่วนนักกีฬาไทยในประเภทอื่นๆ ก็ยังคงมีโอกาสในการคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันโอลิมปิก ในหลายชนิดกีฬา มีทั้งมวยสากลสมัครเล่น กอล์ฟ ต้องส่งกำลังใจให้พวกเขาให้ทำผลงานให้ดีในการแข่งขัน เมื่อเป็นตัวแทนทีมประเทศไทยแล้ว ทุกคนคือตัวแทน คือความภูมิใจของคนไทยในชาติ สู้ต่อไปครับ ผมเอาใจช่วยพวกคุณ