ฮิมต๋ายฮิมยัง : จ่าฝูงยาวไป ทีมชาติไทยได้ไปต่อ

การแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศกำลังเข้มข้น ตามด้วยบอลถ้วยลีกคัพกลางสัปดาห์ ส่วนฟุตบอลเอเชียรอบคัดเลือกในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เราก็ผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายได้แล้ว สัปดาห์นี้ก็เลยมีเรื่องให้พูดถึงมากมายสักหน่อย

ผลการแข่งขัน ไทยลีก 1 หรือ “ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก” จ่าฝูง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงเก็บ 3 คะแนนได้อีก 1 นัด และถือว่าการลงเล่นในนัดเป็นเกมใหญ่ เมื่อผู้มาเยือนคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด

คู่นี้ถือเป็นบิ๊กแมทช์ไม่ว่าจะรายการไหนในเมืองไทย และผลที่ออกมาก็ไม่ถือว่าเกินความคาดหมาย เพราะผลงานช่วงหลังที่พบกัน “ปราสาทสายฟ้า” ทำได้ดีกว่า และในฤดูกาลนี้พวกเขาก็ยังคงฟอร์มร้อนแรงมาอย่างต่อเนื่อง

อันดับสองตามหลัง 5 คะแนน ทรู แบงคอก ยูไนเต็ด นัดล่าสุดยังคงหาชัยชนะไม่เจอเป็นนัดที่ 2 โดนหนองบัว พิชญ เอฟซี บุกมาแบ่งแต้มได้ท้ายเกม ส่วนอันดับ 3 ที่แข่งน้อยกว่าเพื่อน แชมป์เก่า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 3 คะแนน ล่าสุดจากการบุกไปชนะทีมอันดับสุดท้าย เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ทำให้ช่องว่างจากจ่าฝูงยังคงเป็น 6 คะแนน

และนัดต่อไปจะเป็นบิ๊กแมทช์ เพราะผู้มาเยือนพวกเขาที่ ลีโอ สเตเดียม ก็คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถ้าหากพวกเขากำชัยเหนือจ่าฝูงได้ ช่องว่างจะลดเหลือแค่ 3 คะแนน แถมมีอีก 1 นัดในมืออีกด้วย

ท้ายตารางก็ยังคงเป็น เชียงใหม่ ยูไนเต็ด นัดล่าสุดเกมในบ้าน พวกเขาก็พ่ายให้กับแชมป์เก่า ในขณะที่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด อันดับ 15 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำผลงานได้อย่างสุดยอด เมื่อบุกไปเอาชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี อันดับ 14 ถึงถิ่น พร้อมถีบเจ้าบ้านลงไปอยู่รองสุดท้ายอีกด้วย

จากผลงานนัดล่าสุดที่พ่ายแพ้ต่อน้องใหม่ไทยลีกเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ยิ่งทวีความไม่พอใจต่อผลงานการคุมทัพของ กาเดโบ้ อเดบาโย่ ซึ่งก่อนเกมที่จะเปิดบ้านพบ ขอนแก่น เอฟซี เขาได้รับโอกาสในการพิสูจน์ฝีมือ 4 นัด หากยังไม่ดีขึ้น เก้าอี้ตัวนี้คงปลดล็อกสปริงที่อยู่ข้างล่างแน่นอน

และเพียงแค่นัดแรกในบ้าน และต้องเจอกับทีมที่อยู่ในโซนตกชั้นเช่นกันก็ทำให้โอกาสที่เขาจะว่างงานก็ชัดเจนขึ้นมาเรื่อย ๆ

ส่วนไทยลีก 2 หรือ “เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ” จนถึงนัดที่ 11 ตราด เอฟซี ก็ยังคงรักษาฟอร์มอันร้อนแรง 10 นัดแล้ว ที่พวกเขาเอาชนะคู่แข่งในลีกได้ไม่ว่าจะเหย้า หรือเยือน คงไม่พลิกโผใด ๆ หากจะเอาปากกาไปวงว่าพวกเขาคือทีมแรกที่น่าจะได้กลับขึ้นไปเล่นลีกสูงสุด

ส่วนอันดับที่ไล่ตามมาต่างก็พากันสะดุด ตั้งแต่รองจ่าฝูง สุโขทัย เอฟซี ที่ทำได้แค่เสมอ แพร่ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพ่าย แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ส่วนที่ผลงานดีขึ้นมาหน่อยก็คือ อุดร ธานี เอฟซี

ทำให้ช่องว่าระหว่างอันสองและจ่าฝูง ยืดออกไปเป็น 9 คะแนน จะไม่เลื่อนชั้นได้อย่างไรเล่าทีมจ่าฝูง

ท้ายตาราง สโมสรฟุตบอลราชนาวี พวกเขาหาชัยชนะนัดแรกของฤดูกาลเจอแล้ว จากผลงานที่เปิดบ้านเอาชนะ คัสตอม ลาดกระบัง ยูไนเต็ด ได้ 3 – 0 เก็บเพิ่มเป็น 5 คะแนนแต่ยังขยับหนีอันดับสุดท้ายไม่ได้ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด หยุดสถิติโดนตามตีเสมอในสัปดาห์นี้ไปได้ เพราะคู่แข่งของพวกเขา เชียงใหม่ เอฟซี ไม่สามารถเดินทางมาแข่งขันได้ เพราะปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด 19

ทำให้ไทยลีกต้องประกาศเลื่อนการแข่งขันของคู่นี้ออกไปก่อน เช่นเดียวกับการแข่งขันฟุตบอลถ้วยที่ เชียงใหม่ เอฟซี จะต้องลงเล่นก็ถูกเลื่อนออกไปเช่นกัน จนกว่าจะได้กำหนดโปรแกรมการแข่งขันใหม่

ไทยลีก 2 ก็ยังคงเหลือ สโมสรฟุตบอลราชประชา ที่ยังหาชัยชนะไม่เจอ และเป็นผลเสมอถึง 8 นัดจาก 11 นัดที่ลงเล่นไปแล้วในฤดูกาลนี้

สัปดาห์นี้มีการแข่งขันฟุตบอลถ้วย “รีโว่ ลีก คัพ” เป็นการแข่งขันรอบเพลย์ ออฟ รอบนี้มีทีมจากไทยลีก 2 มาร่วมโม่แข้งด้วย

ลงเล่นไปแล้วขาดก็แต่เพียงคู่ระหว่าง นาวิกโยธิน ยูเรก้า เอฟซี พบ เชียงใหม่ เอฟซี ที่ต้องเลื่อนออกไป มีผลแพ้ชนะกันในเวลา 90 นาที เกือบทั้งหมดยกเว้นคู่ สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี เอฟซี พบ ลำพูน วอริเออร์ ที่ในเวลาปกติเสมอกัน 1 – 1 ต่อเวลาพิเศษก็ยังเสมอกันอีก 3 – 3 ทำให้ต้องดวลจุดโทษตัดสิน

ลำพูน วอริเออร์ แม่นกว่ายิงเข้าไปทั้ง 4 คน ส่วน สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี เอฟซี ยิงเข้าไปแค่ 1 ลูก จาก 3 คนที่ได้ลงไปยิง ทำให้ ลำพูน วอริเออร์ ผ่านเข้ารอบต่อไปแบบหืดจับ

ส่วนอีกคู่ที่ถือเป็น “บิ๊กแมทช์” ในรอบนี้ อุทัยธานี เอฟซี พบ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด คู่นี้ก็ทำอะไรกันไม่ได้ใน 120 นาที ต้องมาตัดสินกันที่การยิงจุดโทษ ฮีโร่ในการดวลจุดโทษต้องยกให้ วรวุฒิ สุขุนา ผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน โชว์ฟอร์มเซฟจุดโทษได้ถึง 3 ลูก ก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะช่วยกันยิงให้เจ้าบ้านเอาชนะในช่วงการดวลจุดโทษ 3 – 1 ผ่านเข้ารอบเป็นทีมสุดท้าย

และเป็นทีมจาก กาญจนบุรี ทีมที่ 2 ที่ต้องตกรอบนี้จากการดวลลูกจุดโทษทั้งคู่

และปิดท้ายที่ผลงานของทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีที่ลงทำศึก ชิงแชมป์เอเชีย ในรอบคัดเลือก กลุ่ม เจ ที่ไปเล่นกันที่มองโกเลีย นัดสุดท้าย ทีมชาติไทยและทีมชาติมาเลเซีย ทำอะไรกันไม่ได้ ส่งผลให้เมื่อจบการแข่งขัน ทีมชาติได้ได้อันดับ 2 จากผลงาน ชนะ 1 เสมอ 2 มี 5 คะแนน

ทีมชาติมาเลเซีย แชมป์กลุ่ม ได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ทำให้ทีมชาติไทยต้องไปลุ้นเป็นทีมอันดับที่ 2 ที่ดีที่สุดเพื่อเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย

และจากผลการแข่งขันที่ สปป.ลาว เอาชนะเจ้าบ้าน มองโกเลีย ไปได้ ทำให้กลุ่มนี้ คะแนนอันดับที่ 2 จะมี 4 คะแนน เมื่อนับไปคิดกับอันดับที่ 2 ของกลุ่มอื่น ทำให้ทีมชาติไทย กลายเป็นทีมอันดับสองที่ดีที่สุด ได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในที่สุด

ผลงานของนักเตะในชุดนี้ก็ต้องบอกว่ายังไม่ใช่ผลงานที่ดีที่สุด จากนักเตะที่ดีที่สุด แต่เป็นนักเตะที่เหมาะสมที่สุดที่สามารถร่วมเดินทางไปได้

การรวมตัว 6 วันก่อนเกมแรกที่จะเล่น 9 วันในนัดที่สอง และ 12 วันก่อนนัดสุดท้าย ปัญหาสภาพสนามที่เป็นหญ้าเทียม อุณหภูมิต่ำ บนพื้นที่สูง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ผลงานในการแข่งขันครั้งนี้ทำออกมาได้เพียงแค่ผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายแบบ “ฮิมต๋ายฮิมยัง” ตามมาด้วยอาการบาดเจ็บของนักเตะช้างศึก

แต่สิ่งที่หลายคนยังคงตั้งคำถามก็คือ รูปแบบการเล่น ที่นัดสุดท้ายเราต้องการผลชนะ เพื่อการันตีการเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม แต่ถ้าได้ดูการเล่นแล้ว เกมนี้เป็นเกมที่เราพยายามสร้างโอกาสในการเข้าทำได้น้อยมาก

คำตอบก็คือเป็นแท็คติกที่โค้ชวางไว้ “นี่ในใจพี่ลึกๆ นะ วันนี้บอกเลย ถ้าเราไม่ชนะ อย่างน้อยต้องมี 1 คะแนน ใครบอกเราต้องลุยเลย แลก ..เฮ่ยไม่จำเป็น สิ่งที่เราวางแผน อาจดูขัดแย้งบ้าง แต่ผมเชื่อ ฟุตบอลมันลิขิตไว้แล้ว ถ้ามันเข้า ยังไงมันก็เข้า…นี่….แล้วดูนะ ไม่รู้ว่าใครทำ รอบสุดท้าย ได้เข้าลึกแน่นอน”

ครับ รอบสุดท้ายที่อุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 1 – 19 มิถุนายน 2565 ก็คงได้เห็นอะไรที่ดีกว่านี้ ทั้งตัวผู้เล่น การเตรียมทีม และแน่นอน รูปแบบการเล่น ไม่แน่ว่าอาจจะรวมไปถึงคนทำทีมด้วยก็ได้ครับ

by TTDad

เครดิตภาพ : FB Thai League | FB ช้างศึก

ร่วมสนับสนุนโดย
#อีซูซุศาลาเชียงใหม่ #ChiangmaiFreshmilk #zetajersey #ดาวเรืองตราบ้าน #ทรายป่าห้า
.
#ไทยลีก #ไทยลีก2 #ไทยลีก3 #thaileague #ฟุตบอล #ข่าวฟุตบอล #ภาคเหนือ #ข่าวบอล #ข่าวบอลไทย #ข่าวฟุตบอลไทย #ป้อก๊าแข้ง #ไทยลีก1 #ฮิมสนาม #ฮิมสนามตั้งวงเล่า #บอลไทย #football #เล่าสู่กันฟัง #มังกรฟ้าลีก #Bluedragonleague  #North  #m150championship  #thaileague2 #RevoThaiLeague

Warut