เปิดลีกวันพรุ่งนี้ได้เลยไหม! อยากเชียร์แล้ว ! คงเป็นคำถามที่แฟน “พยัคฆ์ล้านนา” จำนวนไม่น้อยอยากให้เป็นเช่นนั้น หลังจากที่ทีมบริหารสโมสรฯ “ติดปีก” ให้พยัคฆ์ล้านนา ด้วยการโละนักเตะยกเเผง เก็บผู้เล่นที่สามารถใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็น พาตริก กุสตาฟส์สัน กองหน้าทีมชาติไทย ที่ย้ายมาร่วมทีมเชียงใหม่ เอฟซีในเลค 2 ของฤดูกาลที่ผ่านมาและ ยิงไป 3 ประตู จากการลงสนาม 12 นัด , เวลโก ฟิลิโปวิช กองหลังชาวเซอร์เบีย ที่ฤดูกาลที่แล้วลงสนามให้กับทีมถึง 30 นัด รวมเวลาเล่นในสนามมากที่สุดของทีม เป็นหัวใจในเกมรับ ที่สำคัญชอบขึ้นมาทำประตู โดยฤดูกาลที่ผ่านทำได้ถึง 5 ประตู ,ตะวัน โคตรสุโพธิ์ กองหน้า U23 ทีมชาติไทย ที่เล่นให้กับทีมรวมเวลาในสนามเป็นอันดับสองเป็นรองเพียง ฟิลิปโปวิช เท่านั้น โดยยิงไปทั้งสิ้น 6 ประตู เป็นรองดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา รวมถึง 2 กองกลางฟันเฟืองสำคัญ สหรัฐ โพธิ์ศรี และ ศุภศักดิ์ สารภี และที่สำคัญ สโมสรฯยังเลือกที่จะเก็บ “สองบ่าวเจียงใหม่” อมรเทพ เมืองดี และ เกียรติศักดิ์ นันทวิเชียรฤทธิ์ ไว้กับทีม
หลังจากปรับโครงสร้างเดิมให้กระชับแล้ว ฤดูกาลนี้ ทีมบริหารสโมสรฯยังจัดเต็ม เริ่มจากการแต่งตั้งแม่ทัพคนใหม่ ดึง จุน ฟูคุดะ กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 45 ปี เข้ามารับหน้าที่ หัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมดีกรี โค้ช A License จาก UEFA “จุน” เคยคุมทีมในลีกมองโกเลีย และ สปป ลาว โดยพาต้นสังกัดคว้าเเชมป์ และรองเเชมป์ มาแล้ว เข้ามาเมืองไทยในปี 2020 กับตำแหน่ง ผู้อำนวยการพัฒนาทีมเยาวชนสมุทรปราการ ซิตี้ จากนั้นหนึ่งปีถัดมารับบทบาทเป็น ผู้ช่วยโค้ชของมาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือเพื่อนร่วมชาติ ให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และมีส่วนในการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ของทัพ “ปราสาทสายฟ้า”
In : นอกจากจะตั้งแม่ทัพคนใหม่แล้ว ขุนพลคู่กายเเม่ทัพ ซึ่งก็มีทั้ง นักเตะใหม่ (จริงๆ) ,นักเตะใหม่(แต่หน้าเก่า) รวมถึง นักเตะจากเครือข่าย เข้ามาใหม่ถึง 15 คน เป็นใครกันบ้างเรามาติดตามกันครับ
1 สเตนิโอ จูเนียร์ (Stenio Junior) ตัวรุกชาวบราซิเลียน วัย 31 ปี เล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก ทั้งหน้าเป้า ปีกซ้ายและขวา สเตนิโอ จูเนียร์ หลังจากออกจากบราซิลบ้านเกิดก็เข้ามาลุยค้าแข้งในยุโรปถึง 10 ฤดูกาล โดยเล่นในลีกมาซิโดเนียถึง 7 ฤดูกาล พาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกถึง 2 สมัย และผ่านไปเล่นฟุตบอลสโมสรฯยุโรปมาแล้ว สำหรับการเล่นให้กับเชียงใหม่เอฟซีเป็นการเข้ามาค้าแข้งในเอเชีย เป็นครั้งแรก
2 “คอนเนอร์” ชิษณุพงษ์ โชติ กองหน้าวัย 21 ปี จากชลบุรี เอฟซี มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการ ในสัญญายืมตัว เล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก
ชิษณุพงษ์ เป็นชาว อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี สูง 174 เซนติเมตร เล่นฟุตบอลลีกอาชีพครั้งแรก ในวัย 18 ปี กับทีม บ้านบึง เอฟซี บนเวทีไทยลีก 3 เมื่อปี 2019 จากนั้นปี 2020 ย้ายไปร่วมทีมขอนแก่น ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว และเป็นส่วนสำคัญ ในการพาทัพ “จงอางผยอง” เลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก 1 ได้สำเร็จ จนเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา กลับมาเล่นให้ชลบุรี เอฟซี ลงสนามบนเวทีไทยลีก 22 นัด ทำได้ 2 แอสซิสต์, ฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2 นัด ทำได้ 1 ประตู และในฟุตบอลลีก คัพ 4 นัด รวมถึงนัดที่บุกมาเยือนเชียงใหม่ เอฟซี
นอกจากนี้ “คอนเนอร์” ชิษณุพงษ์ ยังติดทีมชาติไทย มาตั้งแต่ชุดไซตามะ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี มาจนถึงรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุด ดูไบ คัพ 2022 ที่ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
3 อิม ชางกยุน (Im Changkyoon) กองกลางวัย 32 ปี จากอุดรธานี เอฟซี เล่นกองกลางตัวรุก แต่ขยับมาเล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง และริมเส้นฝั่งขวาได้ด้วย โดยย้ายมาค้าแข้งที่ประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วกับ อุดรธานี เอฟซี บนเวทีไทยลีก 2 ซึ่งเป็นการออกมาค้าแข้งต่างแดนเป็นครั้งแรก ลงสนามในเกมลีก 32 นัด 2,704 นาที ทำไป 4 ประตู กับอีก 11 แอสซิสต์ ในสีเสื้อ “ยักษ์แสด”
4 คิม โบยง (KIM BOYONG) ปีกซ้ายชาวเกาหลีใต้ วัย 25 ปี จากเอฟเค ตูรอน ทีมในลีกสูงสุดของอูซเบกิสถาน เคยเล่นให้กับ ชุนนัม ดรากอนส์ (Jeonnam Dragons) พร้อมกับ อิม ชางกยุน (Im Changkyoon) กองกลางเพื่อนร่วมชาติ และล่าสุดทั้งคู่กลับมาเล่นร่วมกันให้กับทีมเชียงใหม่ เอฟซี
5 ไรฮาน สจ๊วร์ต (Ryhan Stewart) แบ็คขวาลูกครึ่ง สิงคโปร์-เวลส์ วัย 22 ปี จากทีม ยัง ไลออนส์ ในสิงคโปร์ พรีเมียร์ ลีก ที่พกดีกรีทีมชาติสิงคโปร์(ทั้งชุดซีเกมส์ที่เวียดนามและชุดลุยศึกฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือกที่ประเทศ อุซเบกิสถาน ) มาในโควต้าอาเซี่ยน ซึ่งสามารถดันขึ้นไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ หรือปีกขวาได้ด้วย
6 “ดิน” ชัชชัย นันทวิเชียรฤทธิ์ “หละอ่อนแม่เเจ่ม” กองกลางริมเส้นฝั่งขวา วัย 28 ปี จากอุดรธานี เอฟซี โดยเป็นผู้เล่น Homegrown หรือผู้เล่นท้องถิ่น รายที่ 3 ในรอบ 3 ปี ของเชียงใหม่ เอฟซี ต่อจาก อมรเทพ เมืองดี และ เกียรติศักดิ์ นันทวิเชียรฤทธิ์ ดิน” ชัชชัย เป็นลูกพี่ลูกน้องของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ นันทวิเชียรฤทธิ์ อีกหนึ่งกองกลางในถ้ำ “พยัคฆ์” โดยเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 15 ปี กับสโมสรนครเชียงใหม่ อะคาเดมี่ โดยมี “โค้ชปลั๊ก” พงศ์พันธุ์ วิบูลยเสข นักปั้นมือทองวงการลูกหนังเชียงใหม่ เป็นโค้ชคนแรก ก่อนจะเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับ ลำพูน วอร์ริเออร์ จากนั้นเดินทางทั่วไทยไปร่วมทีมต่างๆ ถึง 8 สโมสรฯ ซึ่งฤดูกาลล่าสุดเล่นให้กับ “ยักษ์แสด” อุดรธานี เอฟซี
7 “เอ็กซ์” สุวรรณภัทร์ กิ่งแก้ว กองหลังวัย 28 ปี จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด โดยเป็นการกลับสู่ถ้ำ “พยัคฆ์” อีกครั้งของอดีตปราการหลังทีมชาติไทย ชุดปรีโอลิมปิก “เอ็กซ์” สุวรรณภัทร์ ชาว จ.อุบลราชธานี เป็นกองหลังสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรับ เป็นผลผลิตจาก บีจีพียู อะคาเดมี่ ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่ เมื่อปี 2013 จากนั้นย้ายมาร่วมทัพ เชียงใหม่ เอฟซี เมื่อฤดูกาล 2017 พร้อมช่วย “พยัคฆ์ล้านนา” เลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก 1 ในฤดูกาล 2018 พร้อมสวมปลอกแขนกัปตันทีม “พยัคฆ์ล้านนา” 3 ซีซั่น แล้วกลับมาร่วมทัพ บีจีพียู อีกครั้งในฤดูกาล 2020 ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับสโมสรราชประชา ในเลก 2 ของฤดูกาลเดียวกัน ซีซั่นที่ผ่านมา ถูกปล่อยยืมตัวไปให้กับทีมในไทยลีก อย่าง สุพรรณบุรี เอฟซี (เลกแรก) และ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี (เลกสอง) โดยลงสนามให้ สุพรรณบุรี เอฟซี 10 นัด และ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 8 นัด ก่อนจะเป็นสมาชิกใหม่ถ้ำ “พยัคฆ์” ฤดูกาล 2022-23 ในที่สุด
8 “เล้ง” ธนินท์ เกียรติเลิศธรรม แบคขวาดาวรุ่ง วัย 22 ปี จากสโมสรราชประชา เป็นการกลับสู่ถิ่น “พยัคฆ์ล้านนา” อีกครั้ง หลังเจ้าตัวเคยอยู่กับเชียงใหม่ เอฟซี ในช่วงเลกแรกของซีซั่น 2020-21 เคยขยับขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในซีซั่น 2019
9 “ไบรท์” พรชา รอดนัคเรศน์ ตัวรุกจอมกระชากวัย 25 ปี กลับสู่ทีมอีกครั้ง พรชา มาอยู่กับเชียงใหม่ เอฟซี เมื่อฤดูกาล 2020-21 ก่อนจะถูกปล่อยตัวไปให้กับทัพ “ตราชฎา” ในเลก 2 ของฤดูกาลที่ผ่านมา โดยในเลกแรกของซีซั่นที่แล้ว “ไบรท์” พรชา ลงสนามในเกมลีกให้ เชียงใหม่ เอฟซี 12 นัด ทำได้ 1 ประตู เลก 2 ลงเล่นให้ราชประชา 15 นัด ทำได้ 1 ประตู
10 “ไท” ศรีไทย บูโกก ห้องเครื่องวัย 26 ปี ชาวจังหวัดอุทัยธานี จากสโมสรราชประชา แจ้งเกิดบนเวทีโต๊ะเล็ก ในการแข่งขัน ฟุตซอลไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก 2014 และฟุตซอลลีก ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2015
11 “จ่าต้อง” ศราวุธ เกิดศรี แนวรับมากประสบการณ์วัย 33 ปี จาก “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด “จ่าต้อง” ชาว จ.อุทัยธานี แจ้งเกิดกับทีมบ้านเกิดอย่าง อุทัยธานี ฟอเรสท์ เมื่อปี 2010 จากนั้นผ่านการค้าแข้งในเมืองไทยมาอย่างโชกโชน ทั้งพิจิตร เอฟซี, บางกอก เอฟซี, ขอนแก่น เอฟซี, ราชประชา เอฟซี รวมถึง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งซีซั่นที่ผ่านมา เจ้าตัวลงสนามบนเวทีไทยลีก รวม 11 นัด เเละผ่าน เวที เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก มาเเล้วด้วย
12 “ปอย” ปิยะชนก ดาฤทธิ์ ปราการหลังร่างใหญ่วัย 29 ปี จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เสริมทัพในแผงหลัง “ปอย” ปิยะชนก ชาว จ.สกลนคร เจ้าของความสูง 191 เซนติเมตร แจ้งเกิดกับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เต็มตัวในปี 2014 ก่อนถูกการท่าเรือ เอฟซี ยืมตัวในเลกสอง ฤดูกาล 2019 จากนั้น ฤดูกาลถัดมา ย้ายไปอยู่กับ สโมสรราชประชา โดยก่อนย้ายมาเชียงใหม่เอฟซี เล่นให้กับสุพรรณบุรี เอฟซี แบบยืมตัว
13 “ไนท์” ธรรมยุทธ ต้นคำ จากสโมสรราชประชา วิงแบ็คชาว จ.กาฬสินธุ์ วัย 26 ปี ที่สามารถขยับขึ้นไปเล่นตัวรุกได้ทั้งปีกซ้าย และปีกขวา เคยมีโอกาสไปฝึกซ้อมร่วมกับ คอนซาโดล ซัปโปโร ทีมในเจลีก ประเทศญี่ปุ่น
14 “โอเว่น” รณยศ มิ่งมิตรวัน ห้องเครื่องวัย 24 ปี ชาวสกลนคร จากสโมสรราชประชา เคย ย้ายมาเชียงใหม่ เอฟซี ในเลก 2 ฤดูกาล 2017
15 “ฟาส” ฟาหัส บิลังโหลด ผู้รักษาประตูวัย 23 ปี ชาวสตูล จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นการกลับมาร่วมทีมเชียงใหม่ เอฟซี อีกครั้ง หลังเคยฝากผลงานในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2021-22 ผ่านการติดธงในชุดปรีโอลิมปิกส์ 2020
Out : การเปลี่ยนแปลงตามวิถีฟุตบอล “พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่เอฟซี ปล่อยตัว 9 ผู้เล่นทั้งไทย และต่างชาติ หลังหมดสัญญากับสโมสรฯ
โดยเป็นผู้เล่นไทย 6 คนประกอบด้วย ผู้รักษาประตู: จตุรงค์ สมากร, กองหลัง: ภูมิพัฒน์ สราพิสิทธ์ภัทร และ นฤพน ไวลด์, กองกลาง: สมยศ พงษ์สุวรรณ์, เนติธร อินทนนท์ และ นวมินทร์ ชัยประเสริฐ
ผู้เล่นต่างชาติที่ถูกปล่อยตัว 3 คน ประกอบด้วย กองหน้า: ดานิโล โลเปส (Danilo Lopes), เซยะ ซูงิชิตะ (Seiya Sugishita) และ เอฟเจนี กาบาเยฟ (Evgeny Kabaev)
“พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่เอฟซี ฤดูกาลที่แล้วผลงานไม่น่าจดจำเลย ลงสนาม 34 นัด เก็บได้ 38 แต้ม ชนะ 10 เสมอ 8 แพ้ 16 ยิงได้เพียง 39 ประตู เสีย 55 ประตู จนทำให้แฟนคลับหดหาย ตลอดฤดูกาล เข้าสนามเพียง 9,324 คน ค่าเฉลี่ยต่อนัดเพียง 500 กว่าคน ต้องติดตามกันครับว่า ” เสริมจะอี้ จะเชียร์ม่วนก่อ” ผลงานจะเป็นตัวพิสูจน์
เครดิตภาพ : FB Official Chiangmai Football Club