การแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศ เล่นมาเกินครึ่งเลกแรกกันแล้ว จ่าฝูงเดิมทั้งไทยลีก 1 และ 2 ก็ยังคงทำผลงานดี ยึดตำแหน่งเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ถึงขนาดตอนนี้เริ่มมองหาเสื้อกันหนาวกันแล้ว เพราะคาดว่าอาจจะได้อยู่ไปอีกหลายนัด
ผลการแข่งขัน ไทยลีก 1 หรือ “ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก” อย่างที่บอกไปแล้วว่าจ่าฝูงในสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ยังคงรักษาฟอร์มอันร้อนแรงได้อย่างต่อเนื่อง นัดล่าสุดพวกเขาเอาชนะคู่ปรับในแดนอิสาน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ได้แบบคลีนชีต
แต่ ทรู แบงคอก ยูไนเต็ด ที่ฟอร์ม 5 นัดหลังในลีกพวกเขาเก็บได้ 15 คะแนนเต็ม สิริรวมคะแนนเมื่อจบนัดที่ 8 ที่เล่นนัดตกค้างไป พวกเขาขยับขึ้นมาเป็น “จ่าฝูงร่วม” ที่ 19 คะแนน จะด้อยกว่าก็ตรงประตูได้-เสียที่เป็นรองทีม “ปราสาทสายฟ้า” เท่านั้นเอง
อันดับสามเป็นของ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ชื่อใหม่จาก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มาหมาด ๆ ก่อนเกมการแข่งขันในสัปดาห์ที่ 8 นี่เอง
ท้ายตารางในสัปดาห์นี้ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่เปิดบ้านเอาชนะ หนองบัว พิชญ เอฟซี ไปได้ 1 – 0 ทำให้พวกเขาหนีจากอันดับบ๊วยขึ้นมาได้สำเร็จ ส่วน เชียงใหม่ ยูไนเต็ด นัดล่าสุดพวกเขาพลาดท่าปราชัยในบ้าน ทำให้ยังคงมี 5 คะแนนเท่าเดิม หล่นลงไปเป็นอันดับสุดท้ายแทน
เกมนี้ “โค้ชจั๊บ” สุรชัย จิระศิริโชติ ทำหน้าที่เป็นกุนซือขัดตาทัพให้กับทีม ในระหว่างที่รอ ไอล์ตัน ดอส ซานโตส ซิลวา ที่เพิ่งจะเดินทางมาถึงเมืองไทยในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะได้เริ่มงานจริงจังก็ต้องเข้ากระบวนการกักตัวตามมาตรการเสียก่อน
มากันต่อที่ไทยลีก 2 หรือ “เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ” ตราด เอฟซี ยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แถมยังยืดช่องว่างระหว่างทีมที่ตามมาเป็นอันดับ 2 อย่าง แพร่ ยูไนเต็ด ออกไปเป็น 5 คะแนน เพราะนัดล่าสุด สุโขทัย เอฟซี ทีมอันดับ 3 บุกมาเอาชนะ “ม้าคะนองศึก” ได้ถึงบ้าน หยุดสถิติเป็นทีมไร้พ่ายไว้ที่ 8 นัด
ท้ายตาราง ยังเป็น สโมสรฟุตบอลราชนาวี ที่ยังหาชัยชนะไม่เจอเป็นนัดที่ 9 แล้ว เก็บไปได้แค่ 2 คะแนนเท่านั้น ซึ่ง 7 นัดที่พวกเขาลงเล่นนั้น เป็นเกมในบ้านอีกด้วย จมอยู่ในอันดับสุดท้ายของตารางต่อไป
สัปดาห์ที่แล้ว อันดับรองสุดท้ายอย่าง เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ที่พวกเขาออกนำคู่แข่ง 2 ลูก แต่จบเกมด้วยการแบ่งแต้มที่สกอร์ 2 – 2 นัดล่าสุด พวกเขาก็ต้องช็อกอีกครั้ง แล้วดูเหมือนจะหนักกว่าเดิมอีก
พวกเขาออกนำคู่แข่งต่อหน้าแฟนบอลที่เข้าไปดูเกือบเต็มโควต้าที่ได้รับอนุญาต และดูเหมือนว่าครึ่งแรกพวกเขาจะตอบแทนเสียงเชียร์ของแฟนบอลด้วยการออกนำผู้มาเยือนถึง 3 – 0
แต่เหตุการณ์ประดุจดั่ง “เดจาวู” ครึ่งหลังผู้มาเยือนรัวคืนทีเดียว 3 ประตู และเกือบจะเป็นลูกที่ 4 แต่บอลเจ้ากรรมที่ผู้เล่นทีมเยือนยิงซ้ำนั้นข้ามคานออกไปอย่างหวุดหวิด จบเกมจึงเหลือติดมือแค่ 1 คะแนนเท่านั้น
ทำให้จบ 9 นัด พวกเขามีเพิ่มเป็น 6 คะแนน การปล่อยให้ทีมที่ยังไม่มีหัวหน้าผู้ฝึกสอนอย่างเป็นทางการนั้นย่อมไม่เป็นเรื่องดีแน่
เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด จึงตัดสินใจเด็ดขาด แต่งตั้ง “โค้ชชาย” สมชาย มากมูล ให้เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ทำหน้าที่คุมทีมลงแข่งขันนัดที่ 10 ของฤดูกาลทันที
เกมนนัดนี้เดิมทีพวกเขาจะต้องไปเยือน แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด แต่ด้วยเหตุผลเรื่องสภาพสนามที่ 3 นัดหลังในบ้านนั้นมีเสียงท้วงติงถึงความพร้อมของสนามการแข่งขันในจังหวัดที่มีฉายา “ฝนแปด แดดสี่” ทำให้ความเคลื่อนไหวล่าสุดแม้ว่าทางเจ้าบ้านจะเร่งปรับปรุงพื้นสนามให้อยู่ในสภาพที่พอจะใช้งานได้
แต่สุดท้ายทางไทยลีกก็ได้ตัดสินใจแบบเร่งด่วนด้วยการสลับการเป็นทีมเหย้าจาก แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด มาเป็น เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด แทน ทำให้ “โค้ชชาย” จะได้โอกาสในการลงคุมทีมลงทำการแข่งขันนัดแรกต่อหน้าแฟนบอลที่สนามกลีบบัว
ในไทยลีก 2 นั้นมีทีมนึงที่น่าจะได้ฉายาทีม “ฮิมต๋ายฮิมยัง” ประจำลีก ด้วยผลงานการลงสนาม 9 นัด สโมสรฟุตบอลราชประชา จบด้วยเสมอถึง 7 นัด ที่พอจะเข้ามาร่วมแข่งด้วยได้ก็จะเป็น นครปฐม ยูไนเต็ด ด้วยผลเสมอ 5 นัด จากการการเล่น 9 นัด
ราชประชา นัดล่าสุดพวกเขาต้องตามตีเสมอ ระยอง เอฟซี ทั้งที่พวกเขาเปิดหัวด้วยการออกนำ 2 ครั้ง แต่ทีมเยือนก็ตามตีเสมอได้ทั้ง 2 ครั้งก่อนจะพลิกสถานการณ์ขึ้นนำได้ แต่เจ้าของฉายาทีม “ฮิมต๋ายฮิมยัง” ก็มายิงประตูตามตีเสมอจนได้ หวุดหวิดที่จะพ่ายแพ้ในถิ่นได้อีกนัด “ฮิมต๋ายฮิมยัง” สมชื่อเลยครับ
อีกประเด็นที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ และกระแสที่มีอยู่ในห้วง 1 สัปดาห์มานี้คงไม่มีใครที่จะปฏิเสธความร้อนแรงของเจ้าหนู “โฟแบร์” อนันต์ ยอดสังวาลย์ นักเตะ “วันเดอร์คิด” สังกัด ลำพูน วอริเออร์ ที่มีที่มาจากการเป็นนักฟุตบอลเดินสาย
ฟอร์มร้อนแรงของเขาในช่วงนี้ ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องให้เขามีชื่อติดเป็น 1 ในนักเตะชุดชิงแชมป์เอเชียรอบแรกในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่จะต้องมีคิวลงเตะปลายเดือนนี้ที่มองโกเลีย
แน่นอนว่ากระแสต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากฟอร์มของเจ้าตัวที่จะเรียกว่าดีวันดีคืนก็คงไม่ผิดนัก ยิ่งเขาลงเล่นในระดับไทยลีก 2 ที่มีการถ่ายทอดสดด้วยแล้ว ทำให้แฟนบอลจำนวนไม่น้อยได้เห็นฟอร์มการเล่น เลยเกิดเป็นกระแส “โฟแบร์ฟีเวอร์” จนไปเข้าหูเข้าตา “มาดามแป้ง” ผู้จัดการทีมชาติชุดใหญ่และยู-23
จนมีคลิปการไลฟ์สดของมาดามที่มีการพูดถึงเจ้าหนูโฟแบร์ และมีการติดต่อทาบทามเพื่อให้เขาไปเป็น 1 ในทัพนักเตะที่จะเดินทางไปมองโกเลีย
แต่ล่าสุดเจ้าหนูโฟรแบร์ ได้รับไฟเขียวจากทางต้นสังกัด ให้ตัดสินใจว่าจะตอบรับการเป็นนักเตะทีมชาติไทยในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในครั้งนี้หรือไม่ สุดท้ายเจ้าตัวก็ได้ตอบปฏิเสธ ด้วยเหตุผลในเรื่องความเร่งด่วนของการเตรียมตัว และเหตุผลส่วนตัวอื่น ๆ ด้วย
จะว่าไปนี่เป็นการตัดสินใจที่ลำบากครั้งนึงในชีวิตของเขาทีเดียว “ฮิมต๋ายฮิมยัง” จะตัดสินใจอย่างไรดี
และต้องเห็นใจในข้อจำกัดของการร่วมทัพทีมชาติในครั้งนี้ด้วย เพราะห้วงเวลานั้นกระชั้นชิดมาก กำหนดการเดินทางในไม่พอให้เขาได้เตรียมการ ทั้งเรื่องหนังสือเดินทาง เอกสารที่เกี่ยวข้อง และการเตรียมการเรื่องส่วนตัวอีกหลายอย่าง
ไม่มีนักฟุตบอลคนไหนหรอกครับ ที่จะปฏิเสธการได้ติดทีมชาติ แต่วันนี้ยังไม่เหมาะที่จะเป็นโอกาสของเขา แต่เชื่อแน่ว่าวันหน้าถ้าเขาได้มีโอกาสอีกครั้ง เขาจะไม่ปฏิเสธมันอย่างแน่นอนครับ
เช่นกันเมื่อผู้ใหญ่ที่เมตตาให้โอกาสเขาแล้วด้วยประจักษ์ในผลงาน โอกาสหน้าผู้ใหญ่ก็คงไม่ใจร้าย หมางเมินที่จะหยิบยื่นโอกาสให้เขาอีกสักครั้ง
เครดิตภาพ ; https://www.matichon.co.th/sport
by TTDad
ร่วมสนับสนุนโดย
#อีซูซุศาลาเชียงใหม่ #ChiangmaiFreshmilk #zetajersey #ดาวเรืองตราบ้าน #ทรายป่าห้า
.
#ไทยลีก #ไทยลีก2 #ไทยลีก3 #thaileague #ฟุตบอล #ข่าวฟุตบอล #ภาคเหนือ #ข่าวบอล #ข่าวบอลไทย #ข่าวฟุตบอลไทย #ป้อก๊าแข้ง #ไทยลีก1 #ฮิมสนาม #ฮิมสนามตั้งวงเล่า #บอลไทย #football #เล่าสู่กันฟัง #มังกรฟ้าลีก #Bluedragonleague #North #m150championship #thaileague2 #RevoThaiLeague