ฮิมต๋ายฮิมยัง : บอลถ้วยยิงกันถล่มทลาย และ ทีมชาติไทยก็ยังได้ลุ้น

สัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคมกำลังมาถึงแล้ว นั่นคือสัญญาณของปลายฤดูฝนอย่างแท้จริง แล้วฤดูหนาวของเมืองไทยก็ใกล้จะเริ่มต้นเต็มแก่แล้ว

การแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศก็กำลังผ่านช่วงครึ่งแรกของเลกแรกไปแล้ว จ่าฝูงของทั้งสองลีกก็ยังคงเป็นทีมหน้าเดิม ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ผลการแข่งขัน ไทยลีก 1 หรือ “ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก” จ่าฝูง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงเก็บ 3 คะแนนได้อีก 1 นัด ได้ถึง มิตรผล สเตเดียม ในขณะที่รองจ่าฝูง ทรู แบงคอก ยูไนเต็ด พลาดท่าปราชัยต่อ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในศึก “ดาร์บี้แมทช์เมืองปทุม” ที่ ลีโอ สเตเดียม

ทำให้เมื่อจบนัดที่ 9 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยืนหนึ่งในฐานะจ่าฝูงแต่เพียงผู้เดียวที่ 22 คะแนน ทิ้งห่างรองจ่าฝูงไป 3 คะแนนในสัปดาห์นี้ ตามมาด้วย อันดับ 3 ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยช่องว่าง 2 คะแนนจากรองจ่าฝูง

แต่ที่น่าจับตาก็คือแชมป์เก่า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้ลงเล่นน้อยกว่าเพื่อน 1 นัด มี 16 คะแนน จาก 8 นัด อยู่ในอันดับ 4 น่าสนใจว่าหากพวกเขาเก็บ 3 คะแนนได้จากนัดตกค้าง อันดับของพวกเขาจะเข้าใกล้าจ่าฝูงมากกว่านี้แน่นอน

ท้ายตารางในสัปดาห์นี้ ยังคงเป็น เชียงใหม่ ยูไนเต็ด นัดล่าสุดพวกเขาเก็บ 1 คะแนนและเป็นการยิงประตูได้เป็นนัดแรกอีกด้วยจาก 4 นัดหลัง มีเพิ่มเป็น 6 ในขณะที่เพื่อนพ้องที่ร่วมโซนตกชั้น ขอนแก่น ยูไนเต็ด อันดับ 15 สุพรรณบุรี เอฟซี อันดับ 14 ต่างก็พ่ายแพ้ในนัดล่าสุด ทำให้ช่องว่างในโซนตกชั้นห่างแค่ 1 แต้ม

ส่วนในอันดับ 11 – 13 มีคะแนนห่างโซนตกชั้นแค่ 2 คะแนนเท่านั้น หากทีมใดในโซนนี้เก็บ 3 คะแนนได้ สถานการณ์อาจจะพลิกผัน “ฮิมต๋ายฮิมยัง” ได้ในทันที

จากผลงานนัดล่าสุดที่พ่ายแพ้ต่อน้องใหม่ไทยลีก แฟนบอลของ สุพรรณบุรี เอฟซี เริ่มมีเสียงบ่น แสดงถึงความไม่พอใจต่อการคุมทีมของ กาเดโบ้ อเดบาโย่ ที่ 5 นัดหลังสุดพวกเขาเก็บได้แค่ 1 คะแนน สถานการณ์แลดูไม่ต่างกับฤดูกาลที่แล้ว กว่าที่พวกเขาจะรอดตกชั้นต้องมาตัดสินในนัดสุดท้ายของฤดูกาล

“มั่นใจว่าจะพาทีมหนีตกชั้นได้แน่นอน เพราะเกมเตะเพิ่งผ่านไป 9 นัดเท่านั้น ไม่อยากให้ตัดสินกันในตอนนี้ มองในแง่ดีว่าสุพรรณบุรีมีเกมรุกที่ดี ยิงได้ 8 ประตู จาก 8 เกมแรก และเกมรับก็น่าพอใจในระดับหนึ่ง เป็นปัจจัยที่จะทำให้อยู่รอดในรีโว่ ไทยลีก ต่อไปได้” นี่คือคำกล่าวของ อเดบาโย่

แน่นอนในฐานะแฟนบอลย่อมไม่ค่อยมีความสุขนักที่ได้เห็นทีมที่เราเชียร์ต้องอยู่ในสภาพดิ้นรนหนีตกชั้นในทุก ๆ ปี

แต่ถึงอย่างนั้นทีม “ช้างศึกยุทธหัตถี” ก็มีข่าวให้ความสนใจ จอห์น บาจโจ้ ที่ตอนนี้เป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ไปแล้ว เพราะการ ท่าเรือ เอฟซี ไม่แม้จะส่งชื่อเขาลงเล่นในบอลถ้วยเลยในฤดูกาลนี้

ตอนนี้ก็ได้เดินทางไปหาภรรยาและลูกที่ประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งเพื่อพักผ่อน หลังจากนั้นจะหาต้นสังกัดใหม่ในการค้าแข้งเลกสองที่ไทยต่อไป เฮดโค้ช “ช้างศึกยุทธหัตถี” ก็อยากได้ บาจโจ้ มาร่วมทีมเช่นกัน แต่ก็ต้องพิจารณาเรื่องค่าเหนื่อยว่าสู้ไหวหรือไม่ แต่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ เขาเองก็ชอบ บาจโจ้ อยู่ด้วย ก็ต้องมาดูต่อว่าจะไปลงเอยกันอย่างไรในเรื่องนี้

มากันต่อที่ไทยลีก 2 หรือ “เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ” ตราด เอฟซี ยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้อย่างเหนียวแน่น 6 นัดหลังในลีก พวกเขาเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด หนทางในการเลื่อนชั้นถึง ณ ตอนนี้ต้องบอกว่าสดใสเหลือเกิน

รองจ่าฝูงในสัปดาห์นี้เปลี่ยนมือจาก แพร่ ยูไนเต็ด มาเป็น สุโขทัย เอฟซี โดยที่ทั้งคู่มีคะแนนเท่ากันที่ 21 คะแนน แต่ “ค้างคาวไฟ” มีประตูได้เสียที่ดีกว่า จึงชิงรองจ่าฝูงไปได้

ท้ายตาราง สโมสรฟุตบอลราชนาวี ก็ยังคงหาชัยชนะนัดแรกไม่เจอ มีอยู่ 2 คะแนนเท่าเดิม รองสุดท้ายอย่าง เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ที่เจอเหตุการณ์ฝันร้ายมาแล้ว 2 นัดติด จากการออกนำคู่ต่อสู้ก่อน แต่สุดท้ายต้องมาถูกแบ่งแต้มเมื่อหมดเวลา

สัปดาห์ล่าสุดพวกเขาก็ต้องเจอฝันร้ายเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน พวกเขาออกนำคู่แข่ง แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด 2 ลูก แต่จบเกมด้วยการแบ่งแต้มที่สกอร์ 2 – 2 เป็นการประเดิมงานใหม่ของ “โค้ชชาย” สมชาย มากมูล นัดแรกที่ไม่สวยงามนัก

เดิมทีพวกเขาจะต้องไปเยือน แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด แต่มีการสลับให้ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด เป็นเจ้าบ้านแทน ด้วยเหตุผลเรื่องสภาพสนามที่ไม่พร้อม

แต่เมื่อเกมนัดนี้ลงเล่นกันจริง ๆ ก็มีฝนตกลงมา ทำให้สภาพสนามเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ไม่ต่างจากการลงเล่นที่ระนองเลย เหตุนี้คงเป็นปัจจัยที่ทำให้ แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด สามารถพลิกสถานการณ์มาเก็บ 1 แต้มกลับบ้านได้สำเร็จ

ต้องยอมรับว่า แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ดเป็นทีมที่เล่นในสภาพสนามแบบนี้ได้เก่งเอามาก ๆ เห็นได้ชัดว่าสภาพนักเตะแข็งแกร่งกว่าทุก ๆ ทีมที่ลงเล่นในสนามแบบนี้

สัปดาห์นี้มีการแข่งขันฟุตบอลถ้วย “ช้าง เอฟเอ คัพ” เป็นการแข่งขันรอบ 64 ทีมสุดท้าย รอบนี้มีทีมจากไทยลีก 1 ร่วมโม่แข้งด้วย และเป็นการแข่งขันกลางสัปดาห์

ผลการแข่งขันที่เกิดการทำประตูได้อย่างมากมายเกิดขึ้นในหลายสนาม โดยเฉพาะสนามที่มีทีมในไทยลีก 1 ลงเล่นกับทีมในระดับอเมเจอร์

“สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี บุกไปถล่ม เอ็มบีเอฟ อัมพวา เอฟซี ด้วยสกอร์ขาดลอยถึง 22 – 1 ถือเป็นสถิติใหม่ในรายการ ช้าง เอฟเอ คัพ ที่ชนะกันขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ ลบสถิติเดิมที่ เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ชื่อเดิมในปี 2019 ที่เอาชนะ สิงห์ อุบล เอฟซี 18 – 0 ลงไปอย่างราบคาบ

นอกจากนั้นในเกมที่ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เปิดบ้านถล่ม สโมสร น่าน ซิตี้ ไปท่วมท้น 12 – 0 นัดนี้ไม่มีการเปิดขายบัตรให้กับแฟนบอล แต่ผู้ชมที่เข้าไปชมในสนามนั้นเป็น สมาชิกตั๋วปี สปอนเซอร์ของฝ่ายจัดการแข่งขัน และครอบครัวพนักงานและนักฟุตบอล ที่ได้เข้ามาชม

“มาดามฮาย” บิ๊กบอสสาวคนสวยของ “ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด” จึงได้นำเงินส่วนแบ่งจากการจำหน่ายสินค้าของสโมสร 30% มอบให้กับสโมสร น่าน ซิตี้ แทนส่วนแบ่งจากการจำหน่ายบัตร

“ฮายขอเป็นกำลังใจให้เด็ก ๆ และสมาชิกของน่าน ซิตี้ ที่รักฟุตบอลทุกท่าน ขอให้ทุกคนได้มีที่เล่นได้ซ้อมฟุตบอลแบบนี้ต่อไป และขอให้เด็ก ๆ โดยเฉพาะเด็กภาคเหนือ ได้มีโอกาสแจ้งเกิดมากขึ้น เพื่อฟุตบอลไทยที่รักของเราทุกคนค่ะ”

“เรามีบูธจำหน่ายสินค้าในวันนี้ ฮายและสโมสร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด จึงตัดสินใจ ขอมอบส่วนแบ่งค่าจำหน่ายสินค้า 30% ให้แก่สโมสรน่าน ซิตี้”

ถือเป็นน้ำใจของ “พี่ใหญ่” ในโซนภาคเหนือที่ให้กับทีม “น้อง” ที่เป็นทีมภาคเหนือด้วยกัน เป็นการต่อลมหายใจของทีมฟุตบอลเล็ก ๆ ให้สามารถยืนหยัดต่อสู้ในสภาวะที่ทีมฟุตบอลหา “รายได้” เข้าสโมสรได้อย่างยากลำบาก

ต้องขอปรบมือให้ในความมีน้ำใจในครั้งนี้ด้วยครับ

ปิดท้ายที่ผลงานของทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีที่ลงทำศึก ชิงแชมป์เอเชีย ในรอบคัดเลือก กลุ่ม เจ ที่ไปเล่นกันที่มองโกเลีย นัดแรกเรามาเสียท่าให้เจ้าบ้านได้ประตูตีเสมอ ส่วนนัดที่ 2 เพิ่งจะจบไปหมาด ๆ เราเอาชนะ ทีมชาติ สปป.ลาว ไปได้ 3 – 0 เก็บไป 4 แต้มจาก 2 นัด นัดสุดท้ายต้องไปชี้ชะตาการเป็นแชมป์กลุ่ม เพื่อการันตีการไปเล่นรอบสุดท้าย

เอาเป็นว่าถึงวินาทีนี้ โอกาสเข้ารอบสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มนั้นยังมี ขอแค่ชนะ ทีมชาติมาเลเซีย ในนัดสุดท้ายให้ได้เท่านั้นเอง เขามี 6 แต้มเต็มจาก 2 นัด แต่ถ้าสามแต้มในนัดหน้าตกเป็นของเราทุกอย่างก็จบครับ